ไม่พบแพ็คเกจทัวร์
ลองตัวเลือกใหม่ หรือค้นหาจากหน้ารวมแพ็คเกจทัวร์
เนปาล อยู่ในเขตพื้นที่ทางใต้ของทวีปเอเชีย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 93 และมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 41 ของโลก เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาหิมาลัย เนปาลจึงเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล โดยเนปาลมีเมืองกาฐมาณฑุเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และเพราะมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ไฮไลท์ของการทัวร์เนปาลในด้านสภาพภูมิประเทศจึงเป็นการที่มีภูเขาสูงอยู่มากมาย โดยมีภูเขาที่สูงที่สุด 8 ใน 10 แห่งของโลกอยู่ในพื้นที่ประเทศของตัวเอง และหนึ่งในนั้นคือภูเขาเอเวอร์เรสต์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เนปาลเป็นประเทศที่สวยงามและเงียบสงบ เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่มีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ปฏิบัติความดีอย่างเคร่งครัด โดยประชากรกว่า 80% ของเนปาลนั้น นับถือศาสนาฮินดู ตามมาด้วยอีกหลากหลายศาสนาในสัดส่วนที่ลดหลั่นกันลงไป และแม้ว่าศาสนาพุทธจะไม่ได้เป็นศาสนาหลักประจำชาติของที่นี่ แต่เนปาลกลับมีสถานที่และประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธอยู่หลายแห่งทีเดียว และหนึ่งในนั้นคือลุมพินีวัน ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า และเป็นสังเวชนียสถานแห่งเดียวจาก 4 แห่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในอินเดีย และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ไปแล้วเรียบร้อย นอกจากสถานที่สำคัญทางศาสนา เนปาลยังมีโบราณสถานและสถาปัตยกรรมในรูปแบบที่แปลกตาในสไตล์ของตัวเอง และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย มั่นใจได้เลยว่าในการมาทัวร์เนปาลนั้น คุณจะได้รับทั้งความเพลินตาและความอิ่มใจกลับไปอย่างแน่นอน
เนปาล มีพรมแดนทิศเหนือติดสาธารณรัฐประชาชน จีน ทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตกติดสาธารณรัฐอินเดีย ประเทศเนปาลแยกจากประเทศบังกลาเทศด้วยฉนวนศิลิกูริ (Siliguri Corridor) แคบ ๆ ในประเทศอินเดีย และแยกจากประเทศภูฏานด้วยรัฐสิกขิมของ อินเดีย กรุงกาฐมาณฑุเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของประเทศ เนปาล เป็นประเทศที่เราอาจจะคิดว่าเป็นประเทศเล็กแต่ความจริงแล้ว เนปาลเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 93 ของโลก เกิดเป็นความหลากหลายทางลักษณะภูมิประเทศ และชีววิทยา เนื่องจากลักษณะพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเล 60 เมตรขึ้นไป รวมทั้งความหลากหลายทางสภาพอากาศ ซึ่งเนปาลมีสภาพอากาศตั้งแต่แบบเขตร้อน จนถึงหนาวแบบอาร์กติค นอกจากความอุดมสมบูรณ์ที่ก่อเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแล้ว เนปาลยังเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรม ซึ่งเนปาลมีภาษามากกว่า 70 ภาษา เป็นประเทศที่ได้ผสมผสานความแตกต่างของวัฒนธรรม เชื้อชาติ เก่าแก่ อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เนปาล เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ควรค่าแก่การมาเยือนสำหรับชาวพุทธ เนื่องจากในอดีด ประเทศเนปาลคือสถานที่ประสูตของพระพุทธเจ้า สำหรับใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ เรียนรู้วัฒนธรรม เนปาลน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการท่องเที่ยว ความหลากหลายทั้งธรรชาติและวัฒนธรรมเหล่านี้ กลายเป็นเสน่ห์และช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาเยือน และสัมผัสความมหัศจรรย์ในเนปาล
ถ้าคุณอยากสัมผัสศาสนสถานที่สำคัญของโลกด้วยตนเองสักครั้งในชีวิต แนะนำให้ลองเก็บทัวร์เนปาลทริปนี้ลงลิสต์การเดินทางเอาไว้ก่อนได้เลย เพราะเชื่อว่าจะเป็นทัวร์เนปาลที่จะทำให้คุณได้อิ่มอกอิ่มใจกันอย่างแน่นอน เริ่มด้วยการบินตรงสู่เมืองคยาในอินเดีย เพื่อกราบนมัสการสถูปพุทธคยาและต้นศรีมหาโพธิ์ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ต่อด้วยการชมศิลปะอินเดียอายุกว่า 2,200 ปี อย่างเสาพระเจ้าอโศก ประตูโทรณะซึ่งเต็มไปด้วยรูปสลักพุทธประวัติ ต่อด้วยการชมสถูปและภาพสลักอดีตพระพุทธเจ้าที่มีอายุราว 1,200 ปี แล้วเดินทางสู่เมืองเวสาลี ซึ่งเป็นแหล่งเผยแพร่พุทธศาสนาที่สำคัญ ชมวัดป่ามหาวันซึ่งเป็นที่แรกที่มีการบวชพระภิกษุในโลก จากนั้นเดินทางไปชมสาลวโนทยานหรือป่าไม้สาละ ในเมืองกุสินารา ซึ่งเป็นที่เสด็จดับขันธปรินิพพานและถวายพระเพลิงองค์พระพุทธเจ้า แล้วข้ามต่อไปยังสวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล ชมสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า แล้วเดินทางสู่เมืองพาราณสี สถานที่แสดงปฐมเทศนาและดินแดนแห่งการแสวงบุญ เพื่อล่องเรือชมแม่น้ำคงคาในยามเช้าและทำพิธีถวายกระทงเป็นพุทธบูชา แล้วเดินทางไปชมสังเวชนียสถาน เมืองสารนาถ เป็นการปิดท้าย เชื่อว่าจะเป็นทัวร์เนปาลที่อิ่มอกอิ่มใจ และได้บุญกันไปแบบเต็มๆ แน่นอน
หากคุณกำลังมองหาทัวร์เนปาลที่ตอบโจทย์ในเรื่องการเดินทางไปชมสถานที่แห่งความศรัทธาแบบแน่นๆ สะใจ แนะนำให้ลองพิจารณาทัวร์เนปาลทริปนี้ดู เพราะเริ่มต้นจะพาคุณเดินทางไปนมัสการพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปยังบ้านนางสุชาดา หญิงผู้ทำพิธีถวายข้าวมธุปายาสซึ่งเป็นอาหารมื้อแรกก่อนองค์พระพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ ต่อด้วยการไปเยือนมหาเจดีย์พุทธคยา อนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ขององค์พระพุทธเจ้า แล้วมุ่งสู่เมืองราชคฤห์ที่ตั้งของเขาคิชฌกูฏ เพื่อกราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขา แล้วไปเยือนวัดเวฬุวนารามมหาสังฆยิกาวาส (วัดเวฬุวัน) วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เยือนวัดป่ามหาวันเมืองเวสาลี แล้วไปชมสังเวชนียสถานเมืองกุสินารา ก่อนไปเยือนสวนลุมพินีวัน อีกหนึ่งสังเวชนียสถานสำคัญทางพุทธศาสนา ต่อด้วยการไปเยือนวัดต่างๆ ที่องค์พระพุทธเจ้าเคยจำพรรษาที่เมืองสาวัตถี เยือนบ้านองคุลีมาล ก่อนเดินทางไปยังพาราณสีเพื่อล่องเรือชมสองฝั่งของแม่น้ำคงคา ปิดท้ายด้วยการไปไหว้พระสวดมนต์ ณ ธัมเมกขสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทาวัน อีกหนึ่งสังเวชนียสถานแห่งเมืองสารนาถ เชื่อว่าทัวร์เนปาลทริปนี้คุณจะได้กราบพระและทำบุญกันจนจุใจเลยทีเดียว
นับว่านี่เป็นทัวร์เนปาล - อินเดีย อีกหนึ่งทริปที่น่าสนใจ และคุณจะได้เห็นหลากหลายบรรยากาศตลอดเส้นทางอันน่าเลื่อมใส เริ่มด้วยการชม 1 ใน 4 สังเวชนียสถานอย่างพุทธคยา แล้วไปชมทิวทัศน์แม่น้ำเนรัญชราและบ้านนางสุชาดา ผู้ถวายข้าวมธุปายาสก่อนที่พระพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ ต่อด้วยการขึ้นสู่เขาคิชฌกูฏ เมืองราชคฤห์ ชมถ้ำพระโมคคัลลาและอีกสองวัดสำคัญในตัวเมือง ไปเยือนมหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก กราบนมัสการพระพุทธรูปองค์ดำ แล้วไปเยือนวัดป่ามหาวันและเมืองเวสาลี ก่อนไปเยือนอีกหนึ่งสังเวชนียสถานในเมืองกุสินารา ชมมกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงองค์พระพุทธเจ้า แล้วข้ามไปเนปาล เยือนสวนลุมพินีวันและเสาอโศก ชมภาพแกะสลักหินของพระนางสิริมหามายา ณ วิหารมายาเทวี จากนั้นมุ่งหน้าสู่เมืองพาราณสีเพื่อล่องเรือชมสองฝั่งแม่น้ำคงคา ชมพิธีบูชาไฟ มหาศิวะราตรี ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน แล้วไปเยือนเมืองสารนาถ เพื่อชมอีกหนึ่งสังเวชนียสถานสำคัญของเมืองนี้เป็นการปิดท้าย นี่คืออีกหนึ่งทัวร์เนปาลที่สบาย และเชื่อได้ว่าคุณจะต้องอิ่มบุญกันกลับมา
สำหรับสายบุญทั้งหลายที่ชื่นชอบในการเรียนรู้วัฒนธรรมอันเก่าแก่ไปพร้อมกับการแสวงบุญ นี่น่าจะเป็นทัวร์เนปาลที่คุณชอบใจ เพราะจะได้ไปเยือนสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่เมืองพุทธคยา ไปเยือนบ้านนางสุชาดา ชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำเนรัญชรา ก่อนมุ่งหน้าสู่เมืองพาราณสี เพื่อชมอีกหนึ่งสังเวชนียสถาน และล่องเรือชมความงามของแม่น้ำคงคายามค่ำคืน ก่อนชมพิธีคงคาอารตีหรือพิธีบูชาไฟ ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อพระแม่คงคา โดยคุณจะได้ลอยกระทงขอพรจากสายน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอีกด้วย จากนั้นมุ่งหน้าต่อสู่ลุมพินีวัน อีกหนึ่งสังเวชนียสถานอันเป็นสถานที่ประสูติขององค์พระพุทธเจ้า ก่อนไปชมสังเวชนียสถานเมืองกุสินารา อันเป็นสถานที่เสด็จปรินิพพาน พร้อมชมมกุฏพันธนเจดีย์ อันเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า แล้วเดินทางไปชมเสาอโศกเมืองเวสาลี ก่อนมุ่งหน้าสู่เมืองปัตนะเพื่อชมสถานที่สำคัญทางศาสนาอย่าง มหาวิทยาลัยนาลันทา และสถานที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร เยือนวัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพุทธศาสนา แล้วไปชมบ่อน้ำร้อนโบราณตโปธาราม สถานที่อาบน้ำของบุคคลวรรณะต่างๆ ซึ่งมีอายุกว่า 2,000 ปี ก่อนมุ่งหน้าสู่ด้านบนของเขาคิชฌกูฏเป็นการปิดท้าย เชื่อว่าทัวร์เนปาลทริปนี้จะสะดวกสบาย และทำให้คุณเพลินใจไปพร้อมกันได้อย่างแน่นอน
เชื่อว่านี่จะต้องเป็นทัวร์เนปาล - อินเดีย ที่สายบุญจะต้องถูกใจ เพราะทริปนี้คุณจะได้ไปถวายผ้าป่ากันถึงวัดไทยในเมืองสารนาท แล้วชมสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาอื่นๆ ในเมืองนี้กันแบบจุใจ ก่อนส่งท้ายวันด้วยการไปชมพิธีบูชาไฟริมฝั่งแม่น้ำคงคา แล้วมุ่งหน้าสู่ลุมพินีวันอันเป็น 1 ใน 4 สังเวชนียสถานที่ต้องไปเยือน ชมสถานที่สำคัญเกี่ยวกับการประสูติขององค์พระพุทธเจ้ากันแบบจุใจ ก่อนไปถวายผ้าป่าอีกครั้ง ณ วัดไทยลุมพินี จากนั้นเดินทางสู่เมืองกุสินารา เพื่อชมสถานที่ปรินิพพานขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วร่วมกันถวายผ้าป่า ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ก่อนมุ่งหน้าไปชมศาสนสถานที่สำคัญในเมืองเวสาลี แล้วเดินทางไปยังเมืองราชคฤห์ เพื่อขึ้นไปเยือนยอดเขาคิชฌกูฏในยามเช้าและชมสถานที่สำคัญซึ่งอยู่ด้านบน แวะชมวัดชีวกัมพวันอันเป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลก ชมวัดแรกในพุทธศาสนาและมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนออกเดินทางสู่พุทธคยา สักการะสถานที่สำคัญแห่งการตรัสรู้ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนไปชมบ้านนางสุชาดาเป็นการปิดท้าย กลับจากทัวร์เนปาลทริปนี้ไป รับรองว่าได้อิ่มเอมกับผลบุญกันเต็มๆ อย่างแน่นอน
หากคุณกำลังมองหาทัวร์เนปาลแบบเต็มๆ ตา ที่จะพาคุณไปเยือนสถานที่สำคัญของประเทศนี้กันแบบสะใจ กดจองทัวร์เนปาลทริปนี้เอาไว้ได้เลย เริ่มต้นกันที่จัตุรัสปัคตาปูร์ดูร์บาร์ ชมประตูทองคำและพระราชวัง 55 พระแกล ซึ่งสวยงามแปลกตา จนเคยเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ Little Buddha และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่สำคัญไปแล้ว จากนั้นไปชมธรรมชาติสุดตื่นตา ณ เทือกเขานากาก๊อต ซึ่งคุณจะได้ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเหนือเทือกเขาหิมาลัย และอาจจะได้ชมยอดเขาเอเวอร์เรสต์หากสภาพอากาศปลอดโปร่งอีกด้วย จากนั้นออกเดินทางสู่เจดีย์พุทธนาท ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญอีกหนึ่งแห่งของกรุงกาฐมาณฑุ จากนั้นจะพาคุณขึ้นเครื่องบินไปชมทิวทัศน์สุดอัศจรรย์ของหุบเขาโภครา ซึ่งเต็มไปด้วยเทือกเขา ทะเลสาบสีฟ้า และไม้ดอกนานาพันธุ์ ชมความมหัศจรรย์ของน้ำตกเดวิด และไปเยือนศูนย์อพยพชาวทิเบต ต่อจากนั้นจึงไปล่องเรือในทะเลสาบเฟวา และชมวัดเบราฮิ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวัดของเทพธิดาที่ทรงพลังที่สุดในเนปาล ต่อด้วยการเข้าพักแรมที่ภูเขาซางรางก๊อต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแห่งที่คุณจะได้รับชมความมหัศจรรย์ของทิวทัศน์ในยามเช้าอันงดงาม ก่อนกลับมาเช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองกาฏมัณฑุอันหลากหลาย แล้วไปเยือนเมืองปาทัน ชมความงามของสถานที่ท่องเที่ยวและแวะช้อปปิ้งกันให้เพลินเป็นการปิดท้าย รับรองว่าได้ชมวิวสวยสะใจในการทัวร์เนปาลทริปนี้กันกลับไปแบบเต็มๆ อย่างแน่นอน
เป็นอีกหนึ่งทริปทัวร์เนปาล - อินเดีย ซึ่งคุณจะได้ชมสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนากันแบบแน่นๆ อีกหนึ่งทริปเลยเชียวละ เริ่มจากการชม 1 ใน 4 สังเวชนียสถานในเมืองพุทธคยาอันเป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์พระพุทธเจ้า แล้วเดินทางสู่เมืองนาลันทา ชมมหาวิทยาลัยในสมัยพุทธกาล จากนั้นขึ้นสู่ด้านบนของเขาคิชฌกูฏเพื่อชมหลากหลายสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ก่อนออกเดินทางสู่เมืองปัตนะและเวสาลี เพื่อชมวัดสำคัญ มหาสถูป และปาวาลเจดีย์อันเป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงปลงอายุสังขาร ก่อนเดินทางต่อไปยังเมืองกุสินารา เมืองสำคัญอันเป็นสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า แล้วข้ามพรมแดนสู่ลุมพินีวันในเนปาล เพื่อชมสถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ และสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาอีกหลายแห่ง ก่อนออกเดินทางต่อสู่เมืองสาวัตถี เยี่ยมชมวัดที่องค์พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายเคยได้มาจำพรรษายาวนานที่สุด ณ วัดเชตวันวิหาร จากนั้นมุ่งหน้าสู่พาราณสี เมืองเก่าแก่หลายพันปีที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งการแสวงบุญ เพื่อล่องเรือชมสองฟากฝั่งของแม่น้ำคงคาและสถานที่สำคัญทางศาสนาอีกมากมายเป็นการปิดท้ายทริปแบบเพลินๆ เชื่อว่าทัวร์เนปาลทริปนี้คุณจะมีความสุขในการชมศาสนสถานที่สำคัญกันแบบจุใจ และอิ่มบุญกันไปอีกนานทีเดียว
จัตุรัสแห่งนี้ในสมัยก่อน เดิมทีคือด้านหน้าของพระราชวังแห่งอาณาจักรกาฐมาณฑุ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่งดงามมากมาย ซึ่งเป็นฝีไม้ลายมือของช่างฝีมือในยุคโบราณที่มีอายุกว่าหนึ่งร้อยปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ไปแล้วเรียบร้อย แม้ว่าในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้จะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเนปาล เมื่อปี ค.ศ.2015 แต่ก็นับว่ายังคงหลงเหลือร่องรอยความสวยงามของอารยธรรมเก่าแก่ให้เราเข้าไปสัมผัสกันได้อยู่พอสมควร ไปทัวร์เนปาลเมื่อไหร่ อย่าลืมแวะไปชมกันเชียว
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวเนปาลที่มีความสำคัญต่อชาวพุทธในเนปาลก็คือ เจดีย์พระสวยัมภูวนารถ เรียกได้ว่าเจดีย์แห่งนี้นั้น ถือเป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยมีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 963 โดยพระเจ้ามานะเทวะ กษัตริย์ในสมัยนั้น เจดีย์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ใจกลางของหุบเขากาฐมาณฑุ นอกจากจะได้ชื่นชมความสวยงามของเจดีย์แล้ว ยังจะได้เจอกับฝูงลิงที่อาศัยอยู่รอบๆเจดีย์ ออกมานั่งเล่นทักทายนักท่องเที่ยวกันสนุกสนาน
นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของทัวร์เนปาล ซึ่งไม่ควรพลาดหากมาเที่ยวเนปาล จัตุรัสแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในบริเวณใจกลางเมือง ปาทาน ซึ่งเป็นเมืองคู่แฝดของกาฐมาณฑุ ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช โดยเมืองปาทานนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะของเนปาลเลยทีเดียว เพราะในเมืองนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นร่องรอยของศิลปะ และสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความสวยงามมากมาย โดยหากคุณไปทัวร์เนปาลก็ยังสามารถแวะไปชมความงามของโบราณสถานเหล่านั้นได้ เพราะทุกที่ยังคงสวยตรึงตาแม้กาลเวลาจะผ่านมาแล้วหลายร้อยปีก็ตาม
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดูในเที่ยวเนปาล ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากตัวเมืองกาฐมาณฑุ และตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำพัคมาตี โดยที่นี่เป็นวัดซึ่งได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดของเนปาล รวมถึงมีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับผู้นับถือศาสนาฮินดู และจะอนุญาตให้เข้าไปภายในตัววัดได้เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูเท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์เนปาล สามารถเดินชมความสวยงามได้จากบริเวณรอบๆ ตัววัด ภายในวัดนี้มีจุดซึ่งเป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือหลังคาที่ทำด้วยทองคำซ้อนกันถึง 2 ชั้น รวมถึงประตูเงินที่สร้างจากความเชื่อในศาสนาฮินดู ความสวยงามอันทรงคุณค่า ทำให้วัดปศุปฏินาถแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ไปแล้วเช่นกัน
ยังอยู่กับวัด กับวัดที่ 2 ที่ชื่อว่า วัดสวยมภูนาท ตั้งอยู่บนเทือกเขาด้านทิศตะวันตกของเมืองกาฐมาณฑุ ภายในวัดแห่งนี้มีองค์สถูปสีทองขนาดใหญ่ อายุกว่า 2,500 ปี ที่ถูกสร้างขึ้นจากดินเหนียว อิฐ และทองแดง โดยที่ฐานของสถูปทั้ง 4 ด้าน ปรากฏเป็นภาพเขียนสีรูป ดวงตาแห่งปัญญา (Wisdom Eyes) ที่เชื่อว่ากำลังเพ่งมองไปทั้ง 4 ทิศเพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชน อีกทั้งวัดนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า วัดลิง (Monkey Temple) เพราะเราสามารถเห็นฝูงลิงอาศัยอยู่รอบๆบริเวณวัดแห่งนี้
วิหารที่มีฐานรูปร่างสี่เหลี่ยมเก่าแก่กว่า 400 ปี ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2180 จากหินแกรนิตสีเทาทั้งหลัง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดงานสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะโมกุลของอินเดีย มีเอกลักษณ์อยู่ที่การแกะสลักอันปราณีต และอ่อนช้อย และเป็นศาสนาสถานเพียงที่เดียวในเนปาลที่มีเจดีย์รอบๆถึง 21 องค์ นับเป็นอีกสถานที่ไฮไลต์ไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนเนปาล
สถูปเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองกาฐมาณฑุออกมาประมาณ 8 กิโลเมตร ถือว่าเป็น เจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเนปาล ด้านบนของเจดีย์แห่งนี้ก็ปรากฏเป็นภาพเขียนสีรูปดวงตาแห่งปัญญา (Wisdom Eyes) เช่นเดียวกับที่วัดสวยมภูนาท นอกจากนี้บริเวณรอบๆวัดยังเป็นแหล่งชุมชนชาวธิเบตนิกายมหายานที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เราจึงสามารถเห็นพระธิเบตรวมถึง ชาวธิเบตนิกายมหานยืนสวดมนต์อยู่รอบๆมหาเจดีย์โพธินาถ ซึ่งมหาเจดีย์โพธินาถก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้เช่นกัน
หมู่บ้านนาการ์กอตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งไม่ควรพลาดอีกหนึ่งแห่ง เมื่อคุณมาทัวร์เนปาล เนื่องจากที่นี่มีทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยและหุบเขากาฐมาณฑุอันแสนจะงดงามตระการตาให้คุณได้ชม ที่นี่จึงเหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสความงดงามยิ่งใหญ่ของเทือกเขาหิมาลัยหรือใครที่เป็นนักท่องเที่ยวในสายธรรมชาติ โดยหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนสันเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองภักตปุระ และหากใครต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเทือกเขาหิมาลัยสักครั้งในชีวิตละก็ ขอแนะนำให้มายังหอคอยชมวิวนาการ์กอต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุดในเนปาล รับรองได้ว่าฟิน
ถึงแม้เนปาลจะขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของโลก แต่ที่นี่ก็ยังมีสถานที่ให้เราได้ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น ซึ่งย่านทาเมลนี้ เป็นย่านการค้าใจกลางเมือง และเป็นศูนย์กลางความเจริญของเมืองกาฐมาณฑุ ที่รวบรวมสินค้าท้องถิ่น งานหัตถกรรมพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ ติดมือเป็นของฝาก ของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ก็ตั้งอยู่ย่านทาเมลกันหมด บอกได้เลยว่าที่ย่านทาเมลแห่งนี้มีทุกอย่างที่คุณต้องการ
วัดกุมารีเป็นอาคารเก่าแก่ซึ่งเต็มไปด้วยศิลปะงดงามแบบโบราณ มีความสูง 3 ชั้น และมีบานหน้าต่างเรียงรายรอบๆ ตัวอาคาร โดยหน้าต่างแต่ละบานจะมีลวดลายแกะสลักเรื่องราวในศาสนาฮินดู ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกุมารีแห่งเนปาล มีมายาวนานกว่า 2,600 ปีมาแล้ว โดยกุมารีจะได้รับการนับถือว่าเป็นตัวแทนแห่งเจ้าแม่มหากาลี ที่ลงมาจุติเพื่อปกป้องประเทศเนปาลให้มีความสงบร่มเย็น หากต้องการมาสักการะกุมารี จะมีเทศกาลอินทรายาตรา ซึ่งจะจัดช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนของทุกปี โดยในช่วงนั้นจะมีขบวนแห่กุมารีไปตามถนนต่างๆ ในเมืองกาฐมาณฑุ ประกอบการบรรเลงดนตรี และการเต้นระบำตามความเชื่อทางศาสนาอย่างสวยงาม นับเป็นอีกหนึ่งงานเทศกาลที่ควรหาโอกาสไปทัวร์เนปาลเพื่อชมสักครั้งในชีวิต
เที่ยวเนปาล พลาดไม่ได้เลยกับกิจกรรมสุดฮิตเมื่อมาเที่ยวเนปาล เริ่มต้นกันที่ ล่องเรือทะเลสาบเฟวา ทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ในเนปาล ที่มีภาพด้านหลังเป็นภูเขามัจฉาปูชเร (Fishtail Mountain) ที่สะท้อนบนผิวน้ำเกิดเป็นภาพความสวยงาม และเป็นไฮไลต์สำคัญของทัวร์เนปาลก็ว่าได้ ยิ่งหากได้มาล่องเรือช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกยามเย็นล่ะก็ บรรยากาศที่นี่จะโรแมนติคสุดไปเลย ล่องเรือชมวิวกันจนหนำใจ แล้วก็เข้ามาช้อปปิ้งที่ใจกลางเมืองหลวงกาฐมาณฑุ อย่างย่านทาเมล แวะซื้อของที่ระลึสักหน่อย หรือจะชิมอาหารท้องถิ่น พร้อมชื่นชมบรรยากาศสุดคลาสิคสไตล์เนปาล ก็น่าสนใจไม่น้อย หลังจากนอนพักชาร์จแบตกันเต็มอิ่ม เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการขึ้น เขาซารางก็อต (Sarangkot) จุดชมวิวสุดอลังการบนยอดเขาสูงที่จะทำให้คุณได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยแบบพาโนราม่า อย่างจุใจ พร้อมสูดอากาศอันสดชื่นของธรรมชาติให้เต็มปอด หรือจะนั่งชิวๆ จิบชา จิบกาแฟพร้อมชมวิวเทือกเขาหิมาลัยไปด้วย ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดทีเดียว และอย่าลืมเที่ยวชม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวพุทธ อย่าง มหาเจดีย์โพธินาถ (Boudhanath) หนึ่งในมรดกโลกของเนปาล และเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเนปาล สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนิกชน
อากาศในช่วงนี้จะค่อนข้างหลากหลาย คืออาจจะอยู่ตั้งแต่ 7 ถึง 30 องศาเซลเซียสได้เลยทีเดียว สภาพอากาศส่วนใหญ่ที่จะพบในการทัวร์เนปาลจะค่อนข้างสบายๆ และมีธรรมชาติดอกไม้ใบไม้ที่ค่อนข้างสวยงาม
อุณหภูมิในช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 19 - 29 องศาเซลเซียส บางพื้นที่อาจจะค่อนข้างร้อน และอาจพบพายุฝนประปราย หากมาทัวร์เนปาลในช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่สภาพธรรมชาติเขียวชอุ่มที่สุดของปีเลยเชียวละ
เป็นฤดูกาลที่เหมาะจะมาทัวร์เนปาลอีกช่วงหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากมีอุณหภูมิค่อนข้างสบายอยู่ในระหว่าง 7 - 28 องศาเซลเซียส และมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างปลอดโปร่งแจ่มใส เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
ในช่วงนี้อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 2 -19 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ อากาศช่วงกลางคืนและเช้ามืดจะค่อนข้างหนาว มีหมอกปกคลุมค่อนข้างหนา หากคุณวางแผนทัวร์เนปาลในช่วงนี้ ควรต้องเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นติดตัวไปด้วยเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง
หรืองานเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวเนปาล ซึ่งจะจัดในทุกๆต้นเดือนเมษายนของทุกปี โดยชาวเนปาลจะมีกิจกรมการแสดง และเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ สนุกสนาน ภายในงานจะมีการชักคะเย่อ ราชรถคันใหญ่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ไม่ควรพลาดในเนปาล
ใครจะรู้ว่าโยเกิร์ต ของที่นี่นั้นอร่อยขึ้นชื่อ โดยจะถูกใส่อยู่ในถ้วยเครื่องปั้นดินเผา รสชาติของโยเกิร์ตนั้นหวานกลมกล่อม ได้ชิมสักทีต้องติดใจแน่นอน
อาหารประจำชาติของเนปาล อาหารหลักของชาวเนปาล ซึ่งถั่วเป็นอาหารที่ให้พลังงานและโปรตีนสูง โดยถั่วที่ใช้ทำซุปถั่วนั้นมีหลายชนิด ชนิดที่เป็นนิยมได้แก่ ถั่วดำและถั่วเหลือง โดยการนำถั่วไปต้มในหม้อความดันพร้อมปรุงให้มีรสชาติเล็กน้อย ชาวเนปาลเชื่อว่า หากได้กิน Dal Bhat แล้วจะทำให้มีแรงเดินขึ้นเขาทั้งวันเลยทีเดียว
เมนูนี้มีหน้าตาละม้ายคล้ายเสี่ยวหลงเปาของจีน ซึ่งความจริงแล้วก็มีลักษณะคล้ายๆกัน โมโมคืออีกหนึ่งอาหารประจำชาติของเนปาล มีลักษณะเป็นแป้งบางๆห่อหุ้มใส้ด้านในที่ทำจากผัก หรือเนื้อสัตว์ แล้วนำไปนึ่งหรือทอด ส่วนรสชาติก็คล้ายกับเกี๊ยวซ่าของญี่ปุ่น แต่จะอร่อยแค่ไหน ต้องจองทัวร์เนปาล แล้วไปชิมด้วยตัวเองดีกว่า
เป็นร้านอาหารท้องถิ่นที่เชื่อว่าชาวไทยน่าจะติดใจได้ไม่ยาก เพราะร้านนี้เสิร์ฟอาหารคล้ายๆ เกี๊ยวสารพัดไส้ ในรูปแบบทั้งนึ่งและทอด โดยมีไส้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นผักต่างๆ และเนื้อสัตว์หลายชนิด ไปทัวร์เนปาล ณ เมืองกาฐมาณฑุเมื่อไหร่ อยากชวนให้ไปลองชิมกันดู
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 21.00 น.
พิกัด: 200/38 - Thamel Marg, Kwabahl, Thahity, Thamel Marg, Kathmandu 44600, Nepal
นับเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารในสไตล์ท้องถิ่นของเนปาล ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองกาฐมาณฑุ อาหารไฮไลท์ของร้านนี้ต้องยกให้กับแกงกะหรี่และอีกสารพัดแกงที่ใช้กินพร้อมกับแผ่นแป้งแทนดูรี แต่นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารท้องถิ่นให้คุณเลือกชิมได้อีกหลากหลายเมนู ใครชอบอารมณ์แบบบ้านๆ ชอบลองอาหารท้องถิ่นในแต่ละสถานที่ ไปทัวร์เนปาลทั้งที ร้านนี้น่าสนใจ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 21.00 น.
พิกัด: Amrit Marg, North of trivedi Marg, Thamel Marg, Kathmandu 44600, Nepal
สำหรับคนที่อาจจะไม่ถูกโฉลกนักกับอาหารท้องถิ่นชนิดเต็มรูปแบบ แนะนำว่าร้านนี้น่าจะทำให้คุณอิ่มอร่อยได้อย่างถูกปากและถูกใจ ตัวร้านเป็นรูฟท้อปสบายๆ ในบรรยากาศสุดชิลล์ ร้านนี้เสิร์ฟทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารยุโรป และอาหารสไตล์ฟิวชั่นหลากหลาย นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการกินที่จะทำให้ทัวร์เนปาลของคุณฟินกว่าที่คาดไว้
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 - 21.30 น.
พิกัด: Mandala Street, Kathmandu 44600, Nepal
เนื่องจากเนปาลเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และส่วนใหญ่การทัวร์เนปาลมักจะต้องใช้การเดินชมสถานที่ต่างๆ เป็นหลัก ดังนั้น คุณจึงควรเตรียมร่างกายให้แข็งแรงและพร้อมสำหรับการเดินทางไปเยือนประเทศนี้ และควรเตรียมเสื้อผ้ารวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ให้เหมาะกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูที่คุณวางแผนไปทัวร์เนปาล โดยเฉพาะควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบาย เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และแม้ว่าเนปาลจะไม่ใช่ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการช้อปปิ้งเหมือนอีกหลากหลายประเทศ แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบสินค้าประเภทแฮนด์เมด หรือสินค้าในหมวดหมู่ศิลปหัตถกรรมทั้งหลาย การมาทัวร์เนปาลอาจจะเรียกว่าเป็นสวรรค์ในการช้อปปิ้งของคุณได้เลยทีเดียว
เที่ยวเนปาล มาเยือนเมืองแห่งมรดกโลก ดินแดนแห่งอารยธรรมทั้งที ต้องไม่พลาดซื้อของฝากขึ้นชื่อของที่นี่อย่างพวก สินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นงานแกะสลัก ผ้าปักทอมือ และเครื่องประดับที่ทำจากหินสีต่างๆ ถือเป็นของฝากที่มีเอกลักษณ์แสดงถึงความเป็นเนปาลได้เป็นอย่างดี