เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ที่นี่เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงปักกิ่งตรงรอยต่อระหว่างเขต Langfang เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กันยายน ปี 2019 ท่าอากาศยานนี้อาคาร Terminal ผู้โดยสารที่ได้ชื่อว่าเป็นอาคารสนามบินเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่มากกว่า 1,000,000 ตารางเมตร ซึ่งในอนาคตที่นี่จะเป็นท่าอากาศยานหลักอีกแห่งของประเทศเช่นเดียวกับท่าอากาศยานเดิมที่อยู่ในกรุงปักกิ่ง
ถนนโบราณเฉียนเหมิน เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของปักกิ่ง เปิดให้เที่ยวชมเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เข้าร่วมพิธีแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 หลังจากรัฐบาลปักกิ่งได้ปิดปรับปรุงบูรณะ และก่อสร้างสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนในยุคสมัยราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยจำลองบรรยากาศเก่าๆ สมัยราชวงศ์ชิง บริเวณสองฝั่งถนน มีทั้งภัตตาคาร ร้านค้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าของที่ระลึกในรูปแบบของปักกิ่ง
จัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นจัตุรัสกลางเมืองในใจกลางกรุงปักกิ่ง ตั้งชื่อตามเทียนอันเหมิน ('ประตูแห่งสันติภาพแห่งสวรรค์') ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือโดยแยกออกจากพระราชวังต้องห้าม จัตุรัสนี้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่เนื่องจากเป็นที่ตั้งของเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างในประวัติศาสตร์จีน นอกจากนี้ที่นี่ยังได้ชื่อเป็นเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
เป็นพระราชวังที่ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ์ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง รวม 24 รัชกาล ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ถึง 9,999 ห้อง ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 720,000 ตารางเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแลนมาร์คของกรุงปักกิ่งที่ห้ามพลาด
เป็นอาคารทางศาสนาตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงปักกิ่ง ถูกสร้างขึ้นในปี 1420 ด้วยสถาปัตยกรรมที่สง่างาม มีความสูง 38 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 30 เมตร ในอดีตจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงเดินทางมาเยี่ยมชมเพื่อสวดมนต์ประจำปีเพื่ออธิษฐานขอพรจากสวรรค์
ตลาดรัสเซีย เป็นตลาดร้านค้าในร่มแบบอาคาร 4 ชั้นที่ตั้งอยู่ในเขต Chaoyang ของกรุงปักกิ่ง มีพื้นที่รวมประมาณ 27,000 ตารางเมตร เป็นตลาดนัดราคาถูกประจำกรุงปักกิ่ง ซึ่งภายตลาดจะมีสินค้าขายส่งราคาถูก อาทิเช่น ผ้าไหม ถุงเท้า รองเท้า นาฬิกา และอื่นๆ
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความยาวกว่า 6,700 กิโลเมตร กำแพงนี้ทอดยาวจากฝั่งตะวันออกที่เขต Liaodong ไปทางทิศตะวันตกที่ทะเลสาบ Lop ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
ในร้านสมุนไพรและยาแผนจีนโบราณนั้นมีสมุนไพรธรรมชาติต่างๆ ที่น่าสนใจหลายชนิด แต่ชนิดที่อยากแนะนำที่สุดนั้นมีชื่อว่า "เป๋าซูหลิง" ซึ่งรู้จักกันในนาม "บัวหิมะ" ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียง ที่คนไทยนิยมซื้อไปเป็นของฝากกลับบ้าน
หยก (Jade) คือชื่อที่ใช้เรียกหินซึ่งเป็นอัญมณีอันล้ำค่ามากชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะชาวจีนถือว่าหยกเป็นเจ้าแห่งหินมีค่าทั้งมวล
เป็นสนามกีฬาที่ออกแบบโดยเดินตามรอยสนามกีฬาชื่อดังของโลก มีลักษณะภายนอกคล้ายกับ "รังนก" ซึ่งภายในยังมี สระว่ายน้ำแห่งชาติ โดยมีรูปลักษณ์เหนือจินตนาการคล้าย " ก้อนน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ " ซึ่ง PTW and Ove Arup ออกแบบโดยใช้วัสดุเทฟลอนทำเป็นโครงร่าง เน้นใช้พลังงานแสงอาทิตย์
ย่าน THE PLACE เป็นย่านช้อปปิ้งมีชื่ออีกแห่งของกรุงปักกิ่ง จุดเด่นของที่นี่ความอลังการยิ่งใหญ่ของเพดานจอ LCD ขนาดกว้าง 6,000 ตารางเมตรที่อยู่เหนือศีรษะ
เป็นกลุ่มพระราชวังและสวนหย่อมที่ตั้งอยู่บริเวณชานกรุงปักกิ่งในเขต Haidian ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 ต้นพระราชวังฤดูร้อนเก่าเป็นที่ประทับของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิงและผู้สืบทอดของเขา พระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้เป็นรู้จักกันดีในเรื่องของการจัดสวนที่กว้างขวาง สถาปัตยกรรมการก่อสร้าง ศิลปะ และสมบัติทางประวัติศาสตร์มากมาย
ผ้าไหม เป็นอีกสินค้าของฝากของเมืองจีน ให้ชมความละเอียดอ่อนของผ้าไหม และเลือกซื้อสินค้าที่จากผ้าไหมที่มีเนื้อผ้าอันละเอียดอ่อน เช่น ผ้าห่ม เสื้อผ้า รองเท้า และอื่นๆ
ที่นี่เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงปักกิ่งตรงรอยต่อระหว่างเขต Langfang เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กันยายน ปี 2019 ท่าอากาศยานนี้อาคาร Terminal ผู้โดยสารที่ได้ชื่อว่าเป็นอาคารสนามบินเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่มากกว่า 1,000,000 ตารางเมตร ซึ่งในอนาคตที่นี่จะเป็นท่าอากาศยานหลักอีกแห่งของประเทศเช่นเดียวกับท่าอากาศยานเดิมที่อยู่ในกรุงปักกิ่ง
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย